“ครอบครัวบีม-ออย” "ไบรท์” “แจม-รชตะ” ชวนคนไทยเสริมภูมิคุ้มกันจากโรคไข้เลือดออก ปักหมุดหยุดไข้เลือดออก
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร และทาเคดา ประเทศไทย และพันธมิตรความร่วมมือ Dengue-zero ร่วมส่งต่อความหวังจาก “อิงมา” Dengue Virtual Influencer ที่ถูกสร้างขึ้นโดยอิงมาจากสถิติของคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อไข้เลือดออกกว่า 1.2 ล้านคนใน 15 ปีที่ผ่านมา เปรียบเสมือนสิ่งเตือนใจว่า “โรคไข้เลือดออกใกล้ตัวและน่ากลัวกว่าที่คิด” กับงาน “ส่งต่อความหวังจากอิงมา ชวนคนไทย ปักหมุด หยุดไข้เลือดออก” ตอกย้ำข้อความแห่งความหวังในการต่อสู้กับโรคไข้เลือดออกด้วยมาตราการการเฝ้าระวัง การควบคุมจำนวนลูกน้ำยุงลายเพื่อไม่ให้แพร่พันธุ์ และการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน
งานนี้ “ไบรท์-พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ” ที่เคยต้องพักจอชั่วคราวหลังป่วยหนักจากโรคดังกล่าว ได้นำทีมดารา “แจม-รชตะ หัมพานนท์” พร้อมตัวแทนครอบครัวที่มีลูกเล็กอย่าง “บีม กวี - ออย อฏิพรณ์ ตันจรารักษ์” พาสองแฝด “พี่ธีร์ – น้องพีร์” ร่วมงาน “ส่งต่อความหวังจากอิงมา ชวนคนไทย ปักหมุด หยุดไข้เลือดออก” เปิดเวทีเล่าประสบการณ์และแนวทางป้องกัน พร้อมติดอาวุธเสริมภูมิคุ้มกันจากโรคร้าย พ้นภัยไข้เลือดออก
ไบรท์ ร่วมแชร์ประสบการณ์ตรงหลังเผชิญหน้ากับไข้เลือดออกเมื่อหลายปีที่ผ่านมาว่า “ก่อนหน้านี้เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าโรคไข้เลือดออกจะอันตรายและใกล้ตัวเราขนาดนี้ จนได้มาเกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆ ตอนนั้นไบรท์โชคดีที่รีบมาพบแพทย์ก่อนอาการหนัก แต่ก็ยังต้องใช้เวลารักษาอยู่นานเพราะรู้สึกอ่อนเพลียและไม่มีแรงจนต้องพักงานไประยะหนึ่ง หลังจากหายดีเรารู้ตัวเลยว่าต้องระวังและป้องกันให้ดีที่สุดเพราะไม่อยากเจอประสบการณ์แบบนั้นอีกแล้ว วันนี้ ในฐานะคนที่เคยป่วยโรคนี้มาก่อน เลยอยากจะมาเป็นส่วนหนึ่งในการชวนทุกคนมาเสริมภูมิคุ้มกัน ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคไข้เลือดออกด้วยวิธีต่างๆ รวมถึงการฉีดวัคซีนไข้เลือดออก เพราะโรคนี้สามารถป้องกันได้ค่ะ”
ด้าน บีม-กวี ตันจรารักษ์ ที่ควงแม่ออยและลูกชายฝาแฝดมาร่วมงาน เผยความกังวลไม่แพ้กันจากการที่มีเด็กเล็กๆ ในบ้าน “ยิ่งเรามีลูกเล็ก ยิ่งต้องระวังโรคติดเชื้อในเด็กหลายโรค โดยเฉพาะไข้เลือดออก ในช่วงหน้าฝนยิ่งสำคัญ เราต้องคอยเก็บขยะและหมั่นดูว่าไม่มีแหล่งน้ำขังที่ยุงจะไปวางไข่ได้ หลายคนอาจมองว่าไข้เลือดออกเป็นเรื่องไกลตัว แต่ความจริงแล้วใกล้ตัวกว่าที่คิดและอันตรายมากยิ่งกับเด็กเล็กๆ ดังนั้นในฐานะพ่อแม่ เราจึงนิ่งนอนใจไม่ได้ พอรู้ว่าไข้เลือดออกสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน ก็ถือว่าเป็นความหวังใหม่ในการป้องกันไข้เลือดออกให้กับเราทุกคนครับ”
“ถึงแม้ผมจะยังไม่เคยเป็นไข้เลือดออก แต่จริงๆ แล้วโรคนี้สามารถเกิดได้กับทุกคน ทั้งตัวเราเองและคนใกล้ชิด แต่เราสามารถป้องกันและลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่วิวัฒนาการทางการแพทย์ได้สร้างความหวังใหม่ให้กับการป้องกันโรคไข้เลือดออก ผมมองว่านอกจากการป้องกันตัวเองในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น ผมที่ต้องออกกองถ่ายละครบ่อยๆ ก็สามารถทายากันยุงหรือใส่เสื้อผ้ามิดชิดช่วงพักกอง อีกแนวทางคือการเสริมภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีนไข้เลือดออกเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสสำคัญในชีวิตจากโรคนี้ครับ” แจม-รชตะ หัมพานนท์ กล่าว
โรคไข้เลือดออก (Dengue fever) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว มักพบในประเทศเขตร้อนและจะระบาดในช่วงฤดูฝนของทุกปี ไข้เลือดออกพบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่พบมากที่สุดในกลุ่มเด็กอายุ 5-14 ปี แต่พบว่าในวัยทำงานมีการเสียชีวิตสูงสุด ซึ่งกลุ่มเด็กที่ติดเชื้อไข้เลือดออกสามารถสังเกตได้จากอาการ โดยหากมีอาการไข้สูงลอย มีผื่นแดงหรือจุดเลือดออกตามตัว ให้สันนิษฐานว่าอาจติดโรคไข้เลือดออกได้ ทั้งนี้ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคโดยเร็ว เนื่องจากโรคไข้เลือดออกจะทำให้มีเกล็ดเลือดที่ต่ำและอาจนำพาไปสู่อาการช็อกและการเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ประชาชนควรหมั่นปฏิบัติตามมาตราการในการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อการป้องกันและเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออก เช่น ปิดภาชนะเก็บกักน้ำให้มิดชิด ป้องกันการเข้าไปวางไข่ของยุงลาย เปลี่ยนน้ำในภาชนะอยู่เสมอๆ เพื่อไม่ให้มีแหล่งน้ำที่ยุงสามารถไปเพาะพันธุ์ได้ ปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะใส่น้ำ และปรับปรุงสิ่งแวดล้อมรอบข้างให้ปลอดโปร่งแล้ว โดยไข้เลือดออกสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค โดยสามารถปรึกษาแพทย์หรือสถานพยาบาลใกล้ท่านเพื่อขอรับคำแนะนำในการฉีดวัคซีนไข้เลือดออก
#ไข้เลือดออกป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน #ปักหมุดหยุดไข้เลือดออก